มมม 

Macbook แพงจริงเหรอ และ 5 ส่ิงที่คุณอาจยังไม่รู้เกี่ยวกับการเลือกโน๊ตบุ๊คสำหรับการตัดต่อวีดีโอ 

ททท

,,,

 

1. Macbook ทำงานตัดต่อวีดีโอได้รวดเร็วกว่า

จากภาพในการเรนเดอร์วีดีโอ 4K ยาว 2 นาที จะเห็นได้ว่า Macbook ที่มี ​Final Cut Pro ทำงาน เร็วกว่า PC + Premiere พอควรคือ คือ 3.44 นาที กับ 12.22 นาที (9.06 นาทีถ้าเสียบชาร์จ)

และแรงกว่าชัดเจน 4.53 กับ 20.3 นาที (13.21 ถ้าเสียบชาร์จ) ในโปรแกรมตัดต่อฟรีและดีอย่าง Davinci Resolve


ข้อสังเกตุ 1 ใครซื้อ Macbook มาใช้โปรแกรม Premiere ดูจะไม่เหมาะอย่างยิ่งไป Davinci Resolve หรือหัดใช้ Final Cut Pro ดีกว่า

ข้อสังเกตุ 2 ความเห็นจากทีมแอดมินที่ใช้ตัดต่อ ทั้งสองฝั่ง ก็ใช้เวลาประมาณนี้เช่นกัน

ข้อสังเกตุ 3 Macbook สามารถทำงานวีดีโออื่นต่อได้สะบายในระหว่างเรนเดอร์วีดีโออีกงาน แต่ตัว Windows ทำงานอื่นแทบไม่ได้เลยในระหว่างเรนเดอร์งาน (ทดสอบจาก Notebook HP i7 ปี 2017)


ผู้ท้าชิงจากฝั่ง PC Windows | Dell XPS 15 9570 Touch 15.6” ราคาเปิดตัว 122,900.00 บาท
* Intel i9-8950HK
* RAM: 32 GB
* SSD: 1TB
* Graphic: NVIDIA GTX 1050Ti
https://www.amazon.com/gp/product/B07DZ5Q8P5
ผู้ท้าชิงจากฝั่ง Apple | Macbook Pro 15” 2018 ราคาเปิดตัว 112,900.00 บาท
* Intel i9-8950HK
* RAM: 16 GB
* SSD: 512 GB
* Graphic: AMD Radeon Pro 560
https://www.amazon.com/Apple-MacBook-Laptop-Retina-Storage/dp/B07JN4R28L

https://www.youtube.com/watch?v=F7ZZdOEcWVw

 

..

2. Macbook ขายต่อได้ราคาและง่ายกว่า

ส่วนนี้ ถ้าใครใช้ยาวๆไม่ขายเลยข้ามข้อนี้ได้เลย แม้ว่า Macbook ราคาขายจะแพงกว่าก็จริง แต่ถ้าดูที่ราคาขายต่อ และความง่ายในการขายแล้วฝั่ง Macbook ดีกว่าค่อนข้างชัดเจน

MacBook Pro 15” 2013 ใช้งาน 5 ปี ราคาตลาดมือสอง 35,000 (จากราคาเปิดตัว 66,900 บาท)

XPS 13 2013 ใช้งาน 5 ปี ราคามือสองราวๆ 15,000 (จากราคาเปิดตัว 57,990)

...


...

_

_...
3.
Macbook สเถียรและคล่องตัวกว่า

จากประสบการณ์ของตัวทีมงานเอง และช่างภาพที่รู้จักตอบเป็นเสียงเดียวกันว่า Macbook จะมีความสเถรียรกว่า ตัวเครื่อง Macbook 2014 ของทีมงานที่ใช้ตัดต่อมา 20-30 งาน ก็ยังไม่เคยค้างระหว่างทำงานหรือเรนเดรอ์ ส่วนฝั่ง Windows จะเจอบ่อยพอควร ทั้งระหว่างตัดต่อ หรือว่าการใช้ทั่วๆไป

MacOS มีระบบ Stand by ที่สามารถอยู่ได้นานเป็นเดือนเพียงแค่ปิดฝา และเปิดฝาพร้อมทำงานต่อได้ในเวลาเพียงไม่กี่วินาที ส่วนฝั่ง Windows PC มีระบบนี้เช่นกันแต่ค่อนข้างกินแบตเตอรี่กว่ามาก

ใใใ

ใใใ

4.Macbook มีราคาโปรแกรมที่ถูกกว่า

Premiere Pro + After Effect ต้องเสียค่าเช่าต่อเดือน 1,424 ต่อเดือนหรือปีละ 17,088 บาท (ต้องจ่ายต่อเนื่อง) ลงได้เพียง 2 เครื่อง
Final Cut Pro 10,500 บาท + Motion 1,750 บาท รวม 12,250 บาท (7,500 บาทสำหรับราคานักศึกษา ใช้กันจนทำงานยาวๆคุ้มมาก) ตลอดชีพ และแชร์คนในครอบครัวได้ถึง 6 คน

ข้อสังเกตุ 1 ถ้าใครซื้อฝั่ง Windows หรือแม้แต่ Macbook มาแล้วและมองหาโปรแกรมตัดต่อยู่แนะนำ DaVinci Resolve 15 คับ ฟรีและดีด้วยลายแทง https://www.blackmagicdesign.com/products/davinciresolve/

...

...

5.Macbook มีราคาโปรแกรมที่ถูกกว่า

Premiere Pro + After Effect ต้องเสียค่าเช่าต่อเดือน 1,424 ต่อเดือนหรือปีละ 17,088 บาท (ต้องจ่ายต่อเนื่อง) ลงได้เพียง 2 เครื่อง
Final Cut Pro 10,500 บาท + Motion 1,750 บาท รวม 12,250 บาท (7,500 บาทสำหรับราคานักศึกษา ใช้กันจนทำงานยาวๆคุ้มมาก) ตลอดชีพ และแชร์คนในครอบครัวได้ถึง 6 คน

ข้อสังเกตุ 1 ถ้าใครซื้อฝั่ง Windows หรือแม้แต่ Macbook มาแล้วและมองหาโปรแกรมตัดต่อยู่แนะนำ DaVinci Resolve 15 คับ ฟรีและดีด้วยลายแทง https://www.blackmagicdesign.com/products/davinciresolve/

ใใใ

มมม

6. เทียบสนุกๆ

Macbook 2014 ราคาราวๆ 40,000 บาท กับ PC Desktop ใหม่ราคาราวๆ 60,000 บาท (ยังไม่รวมจอและเม้าคีย์บอร์ด)

จากภาพจะเห็นได้ว่า Final Cut Pro ใน MacBook Pro ที่เก่ากว่า PC 3-4 ปี ทำงานได้พอกันในโปรแกรม Davinci Resolve ผลคือ 42 วิ กับ 36 วิและเร็วกกว่ามากถ้าเทีย FCPX ใน MacBook Pro กับ Premiere ใน PC Desktop ผลคือ 42s กับ 5.42m

ข้อสังเกตุ Final Cut Pro จะทำงานเร็วขึ้นได้อีกมาก เหลือแค่ 7 วิถ้าเทียบกับ 5.42 นาทีใน Premiere

ถ้าเปิดให้ Final Cur Pro ทำงานเรนเดอร์ตลอดเวลาหรือเรียกว่าระบบ Backgroud Rendering ซึ่งฟีเจอร์นี้ยังไม่มีใน Premiere ณ ปี 2018

https://youtu.be/7YCrlN59eEY

...